![]() |
Marienplatz |
เช้าวันที่ 7 พ.ย หลังจากที่ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมที่พักแล้ว พวกเราเริ่มต้นเที่ยวเมืองมิวนิคทันที จุดหมายแรกคือ Marienplatz จะไปดูนาฬิกาเต้นระบำหรือ Glockenspiel ซึ่งจะมีเวลา11 โมง และเที่ยงวัน ของทุกๆวัน(ถ้าฤดูร้อนเพิ่มรอบห้าโมงเย็น) การเดินทางต้องนั่งรถรางซึ่งตั๋วMunich ticket ที่เรามีใช้ได้ทั้งวัน การไปเราไม่ต้องกลัวหลงครับ หาจากgoogle maps เพื่อหาrouteการเดินทางซึ่งจะบอกให้เสร็จว่าขึ้นรถตรงไหนเวลากี่โมง ลงที่ไหนอย่างไร เราให้googleนำทางครับ เมื่อถึงป้ายจอดรถ รอรถรางพอมาถึงก็ขึ้นได้เลยครับเรามีตั๋วเบ่งแล้วนี่ ส่วนหากผู้โดยสารใดถ้าไม่มีตั๋วก็สามารถซื้อที่ตู้อัตโนมัติที่บนรถได้เลย นำตั๋วไปกดที่ตู้สีน้ำเงินเพื่อvalidateตั๋วก่อนนะครับหากไม่ทำนายตรวจมาเจอก็ถูกปรับเช่นกัน ป้ายรถรางจะมีเครื่องหมายH ตัวโตๆ ครับ (H มาจากคำว่า Haltestelle แปลว่า Stop) จอดทั้งรถบัส รถรางครับ
จากด้านหน้าโรงแรมเรานั่งรถรางสาย16 ลงที่Karlsplatz จัตุรัสนี้จะมีลานน้ำพุ เป็นLandmarkที่สำคัญ แต่เวลาที่เราไปน้ำพุไม่ได้เปิด มีแต่ผู้คนนั่งเล่นรอบๆน้ำพุ จึงไม่เป็นที่ดึบดูดใจให้ชม เราจึงเดินต่อไป ที่Mareinplatz ซึ่งไม่ไกลนัก ต้องรีบเดินจ้ำเพราะใกล้เวลา11 โมง สักพักเสียงระฆังโบสถ์ ดังกังวานแหง่งง่าง เรามาถึงจัตุรัสMarienplatz พอดี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยืนอยู่กลางลานจัตุรัสต่างถือกล้องเล็งไปยังหอนาฬิกที่ศาลาว่าการ ซึ่งมีตุ๊กตากลอยู่2 ชั้น ชั้นบนเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของนักรบบาวาเรียน ชั้นล่างเป็นการเต้นระบำพื้นเมือง ตุ๊กตานี้จะเคลื่อนไหวตามกลไกของนาฬิกา
และแล้วตุ๊กตาชั้นบนก็เริ่มเคลื่อนไหวเดินวนไปทางซ้าย พร้อมเสียงเพลงจากระฆังนาฬิกา เมื่อตุ๊กตาชั้นบนเล่นจบ สักพักตุ๊กตาชั้นล่างเริ่มเคลื่อนไหว สมใจกับที่รอคอย นาฬิกาเต้นระบำนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของมิวนิค เป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลกมาเที่ยวมิวนิค หากใครไม่เห็นช่วงนาฬิกาเต้นระบำถือว่ายังไม่ถึงมิวนิคครับ
ดูนาฬิกาเต้นระบำ พร้อมถ่ายรูปบริเวณจัตุรัส จนหนำใจแล้ว จึงเดินสำรวจย่านจัตุรัสmarienplatz ซึ่งเป็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่เป็นที่ตั้งขอศาลาที่วาการเมืองมิวนิค ฝั่งตรงข้ามมีร้านค้า สินค้าแบรนด์เนม ร้่นกาแฟชื่อดัง และร้านอาหารที่มีโต๊ะอาหารเก้าอี้นั่งตรงลานหน้าร้านไว้ให้ลูกค้านั่งทานอาหารพร้อมกับเพลิดเพลินผู้คนที่เดินผ่านไปมาร้านแบบนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป
เดินเที่ยวและถ่ายรูปที่จัตุรัสจนหนำใจแล้วจึงเดินไปทางขวาของจัตุรัส จะเห็นAltes Rathaus ซึ่งเป็นTown hallและหอนาฬิกา ซึ่งมีความสวยงามมาก
ถัดไปเป็นตลาดนัดซึ่งมีร้านค้าส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารที่มีทั้งอาหารสด ประเภท เนื้อ แฮม ไส้กรอก และร้านอหารสำเร็จรูปจำพวกฮอทด๊อก ไส้กรอก ขาหมู ร้านดอกไม้ ร้านจำหน่ายเบียร์สด
ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ทนความเย้ายวนของขาหมูไม่ไหว เลยขอมื้อแรกที่เยอรมันด้วยเมนูง่ายๆ จึงซื้อ เบอร์เกอร์ไส้กรอก เบอร์เกอร์ขาหมู ไปนั่งทานที่โต๊ะในบริเวณลานเบียร์ ไม่พลาดที่จะซื้อเบียร์สดแก้วใหญ่มาดื่ม รสชาติอร่อยถูกปากและถูกใจ แต่ยังไม่หนำใจมื้อเย็นต้องไปหาร้านขาหมูเจ้าดังของมิวนิค ทานให้ได้
ท้องอิ่มแล้ว ไปเที่ยวต่อ จะเดินทางไปพระราชวังNymphenberg เริ่มจากเปิดGoogle map แล้วหาปลายทางครับ อากู๋บอกเราหมดครับให้ไปขึ้นรถTram สายใด ที่ไหน เวลาใด เราเดินไปตามนั้นครับเนื่องจากเรามีตั๋วMunich card day pass ที่ขึ้นรถสาธารณะใดก็ได้ขึ้นรถรางเป็นว่าเล่น ขึ้นๆลงๆ อีกทั้งเห็นว่าใช้Google map หาได้ง่ายที่หน้างาน และเส้นทางที่จะไปจุดหมายแต่ละช่วงสายรถรางอาจเปลี่ยนจากเดิมเพราะบางจุดสามารถขึ้นสายตรงไปถึงจุดหมาย บางจุดอาจต้องขึ้นและเปลี่ยนสาย ดังนั้น บางช่วงผมจึงไม่ได้จดบันทึกสายรถราง รถบัส ไว้ครับ
จากตลาดนัดใกล้ๆMarianplatz นั่งรถรางสาย17 ใช้เวลาราว40นาที ซึ่งต้องเดินไปอีกราว700 เมตร จึงถึงพระราชวังครับ หากมาด้วยรถส่วนตัวหรือรถนำเที่ยว รถสามารถจอดที่ลานกว้างหน้าพระราชวังได้ครับ
พระราชวัง Nymphenberg ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรีย เมื่อเดินถึงลานกว้างจะมองเห็นพระราชวังสถาปัตยกรรมบาวาเรียนตั้งเด่นเป็นสง่า ข้างในพระราชวังถูกแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงภาพวาด งานศิลป์ และเฟอร์นิเจอร์ ให้ชมซึ่งต้องเสียค่าเข้าชม
แต่ผมไม่ถนัดชมพิพิธภัณฑ์ จึงเดินไปส่วนด้านหลังพระราชวังมีอุทยาน มีลานที่สวยงามสามารถเข้าชมได้ฟรี รวมทั้งเดินชมสวนป่าด้านข้างวัง สวนป่าช่วงใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามน่าดูชม
จากนั้นเดินมาที่สระน้ำหน้านพระราชวัง เพลิดเพลินชมฝูงเป็ด ฝูงหงส์ว่ายน้ำพร้อมส่งเสียงร้องสดใส แต่อย่าเดินเพลินนะครับระวังเหยียบขี้เป็ดจะทำให้เหม็นติดรองเท้าไปนานเลยครับ
![]() |
จากNymphenberg เราจะไปเที่ยวต่อยัง English Garden สวนสาธารณะกลางกรุงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น