เที่ยวกับทัวร์วันที่2 เดินทางจากเว้ มุ่งหน้าเมืองดานัง เพื่อไปเที่ยวฮอยอันซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของทริปนี้ รถบัสใช้เส้นทางเดิมที่เลียบชายฝั่งทะเลและลอดอุโมงค์ยาว 6 กิโลเมตร ตามประสาไปกับทัวร์ จะต้องมีรายการแวะร้านค้าร้านขายของที่จัดไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มากับบริษัทนำเที่ยวต่างๆ แต่ผมขอข้ามรายละเอียดในส่วนที่ทัวร์พาแวะร้านต่างๆทั้งร้านขายเยื่อไผ่ ที่มีสินค้าจากเยื่อไผ่สารพัดมานำเสนอขายตั้งแต่ผ้าซับมันในห้องครัวจนถึงชุดชั้นในท่านชายที่สวมใส่แล้วทำให้น้องชายมีสุขภาพแข็งแรง ร้านขายไข่มุก และร้านขายหินอ่อนแกะสลัก ร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ชื่อคล้ายลิง ร้านค้าเหล่านี้ผู้เข้าชมหรือนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่พบเป็นคณะทัวร์จากสยามประเทศซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักของเวียตนาม ทัวร์นี้ดีอย่างหนึ่งคือ ไม่มีกระตุ้นให้ซื้อของแบบที่ทัวร์เกาหลีครับ
ฮอยอันอยู่ห่างจากตัวเมืองดานังระยะทาง ราว 29 กิโลเมตร นั่งรถบัสประะมาณ 45 นาทีก็ถึง (หากท่านใดเดินทางเองมีรถบัสจากดานังไปค่าตั๋ว 18,000 VNDหรือจะนั่งรถตู้จากสนามบินดานังก็ได้ราคาประมาณ220 บาทต่อท่าน) เมืองนี้สมัยก่อนเป็นเมืองท่าสำคัญที่เป็นแหล่งค้าขายสินค้าสำคัญ อาทิ ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเทศต่างๆ ที่ชาวต่างประเทศ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ฝรั่งเศส ดัตช์ มาค้าขายและ ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่
ฮอยอัน ได้รับการประกาศจากUNESCOให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี 2542 เป็นเมืองที่มีอาคารบ้านเรือนสมัยโบราณผสมผสานกันระหว่างศิลปะพื้นเมืองกับศิลปะต่างชาติได้อย่างกลมกลืน มีบ้านเรือนสีเหลืองมัสตาร์ดเป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม
การเข้าชมย่านเมืองเก่าฮอยอันต้องเสียค่าเข้าชมคนละ120,000 VNDซื้อตั๋วได้บริเวณทางเข้าเมืองเก่าไดัครับ ส่วนผมมากับทัวร์ ไม่ต้องรอคิวซื้อตั๋ว ไกด์จัดการซื้อให้ซึ่งรวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว
พอได้ตั๋วเสร็จทั้งคณะก็พากันเดินตามไกด์เข้าชมเมืองเก่าซึ่งเป็นถนนคนเดินกว้างราวๆ8 เมตร 2 ข้างทางเป็นอาคารบ้านเรือนโบราณ ครึ่งตึกครึ่งไม้ ที่ด้านล่างส่วนใหญ่แปรสภาพเป็นร้านค้า ขายของศิลปะและหัตถกรรมพื้นบ้าน ของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร
และมีบ้านโบราณที่คงสภาพเดิมไว้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกซอกทุกมุม สิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมคือการขึ้นไปชั้นบนไปยืนบนระเบียงหน้าบ้าน ถ่ายรูป ชมหมู่บ้านจากที่สูง และให้คนที่อยู่ด้านล่างอีกฝั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เดินต่อไปเรื่อยๆจะพบสะพานโบราณ ทอดข้ามเชื่อมกับอีกฝั่งคลอง เรียกกันว่าสะพานญี่ปุ่น ที่ชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนสร้างขึ้นมาสะพานนี้เป็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมปรับปรุงจึงมีสิ่งก่อสร้างบดบังสะพานไว้บางส่วน เมื่อข้ามสะพานนี้แล้วจะเป็นชุมชนญี่ปุ่นที่มีบ้านเรือนแบบญี่ปุ่น
ถัดจากนั้นเป็นชุมชนชาวจีน มีวัดฟุ๊กเกี๋ยนที่เป็นศิลปจีนตั้งอยู่ สามารถเข้าไปสักการะพระพุทธรูป ชมสถาปัตยกรรมจีนและสวนมังกรที่อยู่ด้านหลังวัด อย่าพลาดการเข้าชมนะครับ สวยงามมาก
จากวัดฟุ๊กเกี๋ยน จะมีถนนตรงไปสู่แม่น้ำ Thu Bon ที่ไหลผ่านเมืองเก่า ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งเป็นย่านเมืองใหม่ โดยมีสะพานคอนกรีตเชื่อมระหว่างกัน จุดที่ไม่ควรพลาดคือตรงกลางสะพานที่สามารถมองเห็นแม่น้ำที่เรือแล่นสัญจรไปมา ทิวทัศน์ของทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่
จากนั้นเดินเลาะริมแม่น้ำย่านฝั่งเมืองเก่าไปทางคลองที่เป็นที่ตั้งของสะพานญี่ปุ่น ย้อนกลับทางเดิม ยังพอมีเลาเหลือจึงมองหากาแฟเวียตนามอร่อยๆทาน ไกด์บอกว่าที่นี่กาแฟเกลือ กับกาแฟน้ำมันมะพร้าวอร่อยมาก เลยเดินหาร้านกาแฟที่ตกแต่งร้านสวยๆจนมาเจอร้านSakura ที่ตกแต่งสวยงาม มีขายทั้งอาหารและกาแฟ เจ้าของร้าน นำเสนอกาแฟไข่เวียตนาม( Ca phe trung)เป็นกาแฟใส่ไข่ไก่สด เลยขอลองบ้าง ส่วนกาแฟใส่เกลือเคยทานแล้วที่บ้านตอนหยิบขวดน้ำตาลผิด กลายเป็นขวดใส่เกลือ กาแฟไข่แก้วนี้รอกว่า10นาทีจึงนำมาเสริฟ น้ำกาแฟสีออกเหลืองนวล ข้นกว่าคาปูชิโนนิดหน่อย เนื้อเนียนมาก ไม่มีกลิ่นคาวของไข่ กลิ่นหอมมาก ดื่มแล้วนุ่มลิ้น รสชาติอร่อยเป็นเลิศครับ สนนราคาก็ไม่แพง 45 บาทเท่านั้น ต้องมาลองนะครับจะติดใจลืมกาแฟเกลือที่บ้านไปได้เลย
นั่งจิบกาแฟ ดูผู้คนเดินไปมา พอได้เวลานัดหมายจึงเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ ห่างออกไปสัก200 เมตร ต้องเดินข้ามถนนไปเอง ข้ามตามแบบคนเวียตนาม คือค่อยๆเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ห้ามวิ่ง ห้ามลังเล ห้ามหยุดนะครับ ค่อยๆเดินรถจะหลบเราเอง รอดปลอดภัยครับ แต่ห้ามนำเทคนิคนี้มาใช้ที่บ้านเรานะครับ เดี๋ยวรถบุบ
ฮอยอัน น่าเที่ยวมากครับ โอกาสหน้าจะมาเที่ยวใหม่ เที่ยวฮอยอันควรมาเที่ยวเองครับจะได้อยู่นานๆ นอนพักสักคืนสองคืน จะได้มีเวลาเที่ยวหลายๆจุด สัมผัส ดื่มด่ำกับบรรยายกาศ วิถีชิวิตผู้คน ทั้งเช้ากลางวันและกลางคืนได้เต็มอิ่มครับ










ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น