สวิตเซอร์แลนด์ได้ชื่อว่ามีระบบรถไฟที่ดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง มีเส้นทางเดินรถครอบคลุมทั้งประเทศ มีทั้งรถไฟท้องถิ่น รถไฟระหว่างเมือง รถไฟระหว่างประเทศ โบกี้หรือตู้รถไฟมีทั้งแบบชั้นเดียว แบบ2 ชั้น ในโบกี้จะมีห้องน้ำสามารถเข้าใช้บริการได้ฟรีได้ฟรีไม่เสียตังค์ เมื่อรถไฟจอดเทียบชานชาลา เราสามารถกดปุ่มเปิดประตูลากกระเป๋าเข้าไปได้ มีเพียงบางตู้ที่มีบันไดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตู้เสบียงไม่เหมาะที่จะหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไป เมื่อลากกระเป๋าเข้าไปแล้วจะมีที่ว่าง หรือมีชั้นสำหรับวางกระเป๋าส่วนตู้ที่มีรูปจักรยานสามารถเอาจักรยานไปจอดได้ เราสามารถเอากระเป๋าไปวางได้เช่นกัน ในตู้โดยสารชั้นบนเหนือศรีษะจะมีที่วางกระเป๋าขนาดเล็ก ส่วนกระเป๋าขนาดกลางสามารถสอดเข้าไปในที่ระหว่างพนักพิงได้ ที่นั่งโดยสารเป็นแบบหันหน้าเข้าหากันมีที่วางของพับได้ขั่นอยู่ตรงกลาง มีที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์และคนพิการ อยู่บริเวณแถวแรกๆใกล้ประตู รถไฟสวิส บานหน้าต่างกระจกกว้างใส ตู้โบกี้ดูใหม่ สะอาด บางขบวนจะมีปลั๊กไฟทั้งนี้ต้องมีอะแดปเตอร์แบบขากลมจึงจะใช้ได้ บางขบวนก็เป็น USB เสียบได้ บางขบวนจะมีตู้สำหรับเด็กโดยเฉพาะมีเก้าอี้นั่งมีโต๊ะตัวเล็กๆ มีเครื่องเล่นด้วย อนึ่งผู้เขียนรีวิวแค่ตู้โดยสารชั้นที่2 เท่านั้นนะครับ ชั้น 1 คงหรูกว่านี้
การใช้บริการรถไฟสวิส ง่าย สะดวก เพียงแต่เราโหลดApp SBB Mobile แล้วเข้าไปในหัวข้อTimetable จากนั้น ระบุสถานีต้นทาง สถานีปลายทาง หรืออาจระบุสถานีระหว่างทางที่ต้องการผ่านด้วยก็ได้ จากนั้นระบบจะประมวลผลแจ้งเวลาและขบวนพร้อมทั้งชานชะลา ให้เสร็จ เราก็เลือกเวลาที่จะเดินทางได้ตามสะดวก และเมื่อกดเวลาที่เลือกแล้วระบบจะแสดงชัดเจนถึงขบวนรถ ชานชาลา ระยะเวลาถึงแต่ละสถานี รวมทั้ง การเปลี่ยนขบวนรถหากมีการเปลี่ยนขบวน หรือจากรถไฟต่อรถบัสหรือเรือ หรือต้องเดิน จากนั้นเราอาจกด Save Journey จะทำให้สามารถดูได้ตลอดเวลาไม่ต้องค้นหาซ้ำอีก ทั้งนี้ระบบสามารถเลือกวันที่จะเดินทางได้ทั้งวันปัจจุบันหรือล่วงหน้าได้
ตู้รถไฟจะมีชั้น 1 และชั้น 2 การขึ้นรถต้องขึ้นและนั่งให้ถูกชั้นโดยสาร ตามตั๋วโดยสารหรือ swiss passที่มีอยู่ ตรงป้ายที่ชานชาลาจะมีป้ายบอกว่าขบวนนี้ตู้ชั้น 1 ชั้น2 จะจอดช่วงไหนของชานชาลาซึ่งจะระบุว่า ช่วงโซน A,B,C หรือ D เราก็ไปยืนรอตามโซนที่ต้องการ
การขึ้นรถไฟสวิสไม่ต้องจองตั๋วหรือที่นั่ง หากเรามีswiss travel passแล้วสามารถใช้บริการได้เลย ขึ้นแล้วเลือกที่นั่งที่ว่างตรงใหน ก็ได้ตามชั้นโดยสารจะนั่งชั้นล่างหรือชั้นบนก็ได้ตามสะดวกยกเว้นที่มีเครื่องหมายจอง ส่วนรถไฟสายGlacier express,Bernina Express หรือ Golden Express ถ้ามีswiss Travel Pass ก็ขึ้นได้ฟรี แต่ควรจองที่นั่งโดยเสียค่าจอง หากไม่จองอาจไม่มีที่นั่ง (รถไฟGolden Express ช่วงต้น พ.ค ผมไม่ได้จองที่ไว้ แต่โชคดีคนไม่เต็ม มีที่นั่งว่าง จึงได้ใช้บริการ) ในตู้โดยสารจะมีจอมอร์นิเตอร์แสดงสถานีที่จะถึงและสถานีปลายทาง รวมทั้งจะมีประกาศเตือนเมื่อจะถึงสถานีต่างๆ การตรวจตั๋วโดยสาร จะมีพนักงานเดินมาตรวจตั๋วโดยสาร เราเพียงแต่โชว์ตั๋วหรือ QR Code ของSwiss Travel Pass ซึ่งจะเป็นแบบกระดาษ หรือ digital จากโทรศัพท์มือถือ ให้เจ้าหน้าที่ใช้มือถือScanหากไม่มีถูกปรับแน่ อนึ่งถ้าเส้นทางที่ไปหากมีการต่อรถบัส หรือต่อเรือ หากมีSwiss travel pass สามารถขึ้นได้เลย ยกเว้นขึ้นเขาบางแห่งต้องเสียค่าขึ้นเขาโดยนำSwiss Travel pass ไปซื้อตั๋วลดราคา อนึ่งบนรถไฟเราสามารถดื่มน้ำ ทานขนมหรืออาหารได้ แต่ ไม่ควรเอาอาหารที่กลิ่นแรงขึ้นไปทานนะครับ บางขบวนมีตู้Restaurant เราสั่งมาทานได้
จากที่เล่ามาข้างต้นจะเห็นว่าการนั่งรถไฟสวิสนั้น ง่ายและสะดวกมาก เพียงแค่มีSwiss Travel Pass และใช้App SBB Mobile หาสถานีต้นทาง สถานีปลายทาง เมื่อได้เวลาที่ต้องการ ก็ไปรอตามplatformหรือชานชาลา ที่ระบุ ก่อนเวลาที่กำหนดออกพอประมาณ และรอตรงบริเวณที่กำหนด เมื่อรถไฟมาถึงก็ขึ้นและนั่งให้ตรงชั้นโดยสารรถไฟ หากมีกระเป๋าก็หาที่วางให้เรียบร้อย รถไฟสวิสจะออกตรงเวลาเป๊ะ มีน้อยครั้งที่รถไฟจะช้ากว่ากำหนด จะลงสถานีใดก็ดูบนจอที่แสดงไว้ตรงหัวหรือท้ายตู้โดยสารหรือตามที่เจ้าหน้าที่ประกาศ รถจอดแล้วต้องรีบลงนะครับรถจอดไม่นาน สวัสดีครับ




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น