เที่ยวสวิสด้วยตนเอง:รีวิวทริปเที่ยวฤดูใบไม้ผลิ 8 วัน Ep.11 นั่งรถไฟเส้นทางมรดกโลกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

google.com, pub-9296050589314666, DIRECT, f08c47fec0942fa0




                   วันที่5 พ.ค 66 ตอนบ่ายหลังจากเที่ยวChur เมืองเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์แล้วเราจะนั่งรถไฟไปชมเส้นทางรถไฟสายมรดกโลกของUnesco  โดยจะขึ้นจากสถานีรถไฟChur ไปสถานี St.Moritz ขึ้นรถไฟขบวนIR เที่ยวเวลา 13.29 ซึ่งเป็นขบวนท้องถิ่นวิ่งระหว่างเมือง ที่ใช้เส้นทางรถไฟเส้นทางเดียวกับรถไฟท่องเที่ยวสายGlacier Express กับสาย Bernina Express ซึ่งเป็นรถไฟpanoramaที่สวยงาม

 จากตารางรถไฟของSBB ขบวนBernina Express จะวิ่งผ่านสถานีChur เช่นกันเวลา14.11 น.ซึ่งใช้ Swiss Travel Pass ก็ขึ้นฟรีได้เช่นกันแต่เราไม่ได้จองที่ไว้ เกรงว่าจะไม่มีที่นั่ง  หากรอขบวนนี้แล้วไม่มีที่นั่งก็จะทำให้เสียเวลานับชั่วโมงเลยทีเดียว

           เส้นทางนี้เป็นUnesco World Heritage Line  ซึ่งถูกจัดเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเรียกว่า Rhaetian Railway ช่วงแรก ชื่อAlbula line  อยู่บนเทือกเขาแอล์ปทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มเปิดใช้เมื่อปีค. 1904(เกือบครบ120ปีแล้ว)เริ่มต้นจากเมือง Thusis ถึงเมือง St.Moritz ระยะทาง 67 กิโลเมตร ทางรถไฟเจาะอุโมงค์ลอดผ่านภูเขา ทำสะพานรถไฟข้ามหุบเขาเชื่อมต่อภูเขา(Viaduct)สะพานข้ามแม่น้ำ(Bridge)ตลอดสายมีอุโมงค์ 42 แห่ง สะพานข้ามหุบเขา สะพานสั้นข้ามแม่น้ำรวม 144 แห่ง ช่วงนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นรถไฟบนภูเขาที่คลาสสิคสำหรับให้รถไฟที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำวิ่ง (ปัจจุบันใช้รถไฟใช้ไฟฟ้า )จัดเป็นทางรถไฟบนภูเขาที่สวยงามที่สุดในโลกด้วยความมีเสน่ห์ของสะพานรถไฟเส้นโค้งที่สวยงามอย่างยิ่ง  (น่าเอารถไฟไทยไปวิ่งเนาะ จะได้เข้ากับบรรยากาศคลาสสิคสมัยสงครามโลกส่วนช่วงที่ระหว่างเมือง  St. Moritz ถึง Tiranoในอิตาลี ชื่อ Bernina line ระยะทาง 61 กิโลเมตร(เราไม่ได้ไป ทริปหน้าไปแน่ๆครับ)

           

         รถไฟขบวนIRที่เราขึ้นมีที่นั่งว่างพอสมควร เราจึงเดินไปนั่งตู้ท้ายๆขบวน เพื่อจะได้เห็นขบวนรถไฟแล่นผ่านทางโค้ง นั่งเพลินสักพัก เจ้าหน้าที่รถไฟเห็นพวกเราสนใจถ่ายรูปสองข้างทาง เขาจึงแนะนำว่าที่ตู้หัวขบวนเป็นตู้พิเศษหน้าต่างกว้างและเปิดกระจกได้ทุกบานรวมทั้งบานหลังคาด้วย


 พวกเราจึงสับเปลี่ยนกันไปยังตู้ดังกล่าว ตู้นี้พิเศษจริงดังว่าครับ แถมสวยงามมาก เราเหมาตู้เลยครับ ไม่มีผู้โดยสารอื่นมาตู้นี้เลยคงเป็นเพราะเป็นขบวนรถไฟท้องถิ่น ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนั่ง คนท้องถิ่นเขานั่งจนชินแล้วจึงไม่สนใจมาถ่ายรูปแบบพวกเรา  ดังนั้นพวกเราจึงผลัดกันยึดตู้นี้ชมวิวและถ่ายรูปกันเพลินทั้งขาไปและขากลับซึ่งเราได้กลับขบวนเดิม แต่ตู้ดังกล่าวนี้กลับอยู่ท้ายขบวนจึงได้สัมผัสอรรถรสในการนั่งท้ายขบวนเปิดหน้าต่าง  ได้สมใจครับ





 



         รถไฟพาเราผ่านภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะ ป่าสน แม่น้ำลำธาร ทุ่งหญ้าสีเขียวสีเหลืองและหมู่บ้านต่างๆ 




ตลอดระยะเวลา2ชั่วโมงไม่ได้งีบเลย ทั้งสนุกและตื่นตาตื่นใจในช่วงที่รถไฟแล่นทางโค้งแล้วมุดหายเข้าไปในอุโมงค์ กับช่วงที่รถไฟวนลงระหว่างหุบเขาผ่านสะพานรถไฟหลายๆแห่ง ลักษณะเป็นเกลียว(Spiral)ลงไป2-3 รอบเป็นระยะทางยาวกว่า10 กม. ถ่ายรูปรถไฟ ทิวทัศน์  ชมวิวเพลินกับธรรมชาติที่แสนสวย สวยงามและประทับใจครับ 







  

                   นับว่าโชคดีที่เราตัดสินใจขึ้นรถไฟขบวนนี้ครับ หากขึ้นขบวนGlacier Express  หรือขบวนBernina Express คงไม่มีโอกาสนั่งตู้พิเศษตรงหัวหรือท้ายขบวนเปิดกระจกยื่นหน้าออกนอกรถไฟสัมผัสกับกลิ่นอายลมเย็นบรรยากาศสองข้างทาง คงอดได้ภาพสวยๆที่ไม่ติดเงากระจกมาฝากท่านผู้อ่านครับ หากท่านไปเที่ยวสวิสลองขึ้นรถไฟเส้นทางมรดกโลกแบบพวกเราซิครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เที่ยวSalzburg ประเทศออสเตรีย

           Salzburg ชื่อนี้อาจไม่คุ้นนัก แต่หากเอ่ยถึงภาพยนต์เพลงชื่อก้องโลก The Sound of Music แล้วทุกคนคงรู้จัก หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในเมือ...