![]() |
จากตารางรถไฟของSBB ขบวนBernina Express จะวิ่งผ่านสถานีChur เช่นกันเวลา14.11 น.ซึ่งใช้ Swiss Travel Pass ก็ขึ้นฟรีได้เช่นกันแต่เราไม่ได้จองที่ไว้ เกรงว่าจะไม่มีที่นั่ง หากรอขบวนนี้แล้วไม่มีที่นั่งก็จะทำให้เสียเวลานับชั่วโมงเลยทีเดียว
เส้นทางนี้เป็นUnesco World Heritage Line ซึ่งถูกจัดเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเรียกว่า Rhaetian Railway ช่วงแรก ชื่อAlbula line อยู่บนเทือกเขาแอล์ปทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มเปิดใช้เมื่อปีค.ศ 1904(เกือบครบ120ปีแล้ว)เริ่มต้นจากเมือง Thusis ถึงเมือง St.Moritz ระยะทาง 67 กิโลเมตร ทางรถไฟเจาะอุโมงค์ลอดผ่านภูเขา ทำสะพานรถไฟข้ามหุบเขาเชื่อมต่อภูเขา(Viaduct)สะพานข้ามแม่น้ำ(Bridge)ตลอดสายมีอุโมงค์ 42 แห่ง สะพานข้ามหุบเขา สะพานสั้นข้ามแม่น้ำรวม 144 แห่ง ช่วงนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นรถไฟบนภูเขาที่คลาสสิคสำหรับให้รถไฟที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำวิ่ง (ปัจจุบันใช้รถไฟใช้ไฟฟ้า )จัดเป็นทางรถไฟบนภูเขาที่สวยงามที่สุดในโลกด้วยความมีเสน่ห์ของสะพานรถไฟเส้นโค้งที่สวยงามอย่างยิ่ง (น่าเอารถไฟไทยไปวิ่งเนาะ จะได้เข้ากับบรรยากาศคลาสสิคสมัยสงครามโลก) ส่วนช่วงที่2 ระหว่างเมือง St. Moritz ถึง Tiranoในอิตาลี ชื่อ Bernina line ระยะทาง 61 กิโลเมตร(เราไม่ได้ไป ทริปหน้าไปแน่ๆครับ)
รถไฟขบวนIRที่เราขึ้นมีที่นั่งว่างพอสมควร เราจึงเดินไปนั่งตู้ท้ายๆขบวน เพื่อจะได้เห็นขบวนรถไฟแล่นผ่านทางโค้ง นั่งเพลินสักพัก เจ้าหน้าที่รถไฟเห็นพวกเราสนใจถ่ายรูปสองข้างทาง เขาจึงแนะนำว่าที่ตู้หัวขบวนเป็นตู้พิเศษหน้าต่างกว้างและเปิดกระจกได้ทุกบานรวมทั้งบานหลังคาด้วย
พวกเราจึงสับเปลี่ยนกันไปยังตู้ดังกล่าว ตู้นี้พิเศษจริงดังว่าครับ แถมสวยงามมาก เราเหมาตู้เลยครับ ไม่มีผู้โดยสารอื่นมาตู้นี้เลยคงเป็นเพราะเป็นขบวนรถไฟท้องถิ่น ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนั่ง คนท้องถิ่นเขานั่งจนชินแล้วจึงไม่สนใจมาถ่ายรูปแบบพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงผลัดกันยึดตู้นี้ชมวิวและถ่ายรูปกันเพลินทั้งขาไปและขากลับซึ่งเราได้กลับขบวนเดิม แต่ตู้ดังกล่าวนี้กลับอยู่ท้ายขบวนจึงได้สัมผัสอรรถรสในการนั่งท้ายขบวนเปิดหน้าต่าง ได้สมใจครับ
รถไฟพาเราผ่านภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะ ป่าสน แม่น้ำลำธาร ทุ่งหญ้าสีเขียวสีเหลืองและหมู่บ้านต่างๆ
ตลอดระยะเวลา2ชั่วโมงไม่ได้งีบเลย ทั้งสนุกและตื่นตาตื่นใจในช่วงที่รถไฟแล่นทางโค้งแล้วมุดหายเข้าไปในอุโมงค์ กับช่วงที่รถไฟวนลงระหว่างหุบเขาผ่านสะพานรถไฟหลายๆแห่ง ลักษณะเป็นเกลียว(Spiral)ลงไป2-3 รอบเป็นระยะทางยาวกว่า10 กม. ถ่ายรูปรถไฟ ทิวทัศน์ ชมวิวเพลินกับธรรมชาติที่แสนสวย สวยงามและประทับใจครับ
นับว่าโชคดีที่เราตัดสินใจขึ้นรถไฟขบวนนี้ครับ หากขึ้นขบวนGlacier Express หรือขบวนBernina Express คงไม่มีโอกาสนั่งตู้พิเศษตรงหัวหรือท้ายขบวนเปิดกระจกยื่นหน้าออกนอกรถไฟสัมผัสกับกลิ่นอายลมเย็นบรรยากาศสองข้างทาง คงอดได้ภาพสวยๆที่ไม่ติดเงากระจกมาฝากท่านผู้อ่านครับ หากท่านไปเที่ยวสวิสลองขึ้นรถไฟเส้นทางมรดกโลกแบบพวกเราซิครับ










ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น