![]() |
เมือง Munich |
หลังจากเตรียมพร้อมการเดินทางแล้ว วันนี้ถึงกำหนดบิน นำรถไปจอดที่ลานจอดรถระยะยาวแล้วนั่งShuttle bus มาที่อาคารผู้โดยสารขาออก Check in และผ่านตม.ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรเพราะผู้โดยสารขาออกเนืองแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ยังพอมีเวลานั่ง เลานจ์ของสายการบิน ทานอาหารรองท้อง ก่อนไปนั่งรอขึ้นเครื่องที่Gate ขึ้นเครื่องการบินไทยราวเที่ยงคืนกว่าๆ เครื่องออก 01.20 น.ของวันที่6 พ.ยช้ากว่ากำหนดเกือบชั่วโมง บินตรงสู่มิวนิคใช้เวลา11ชั่วโมง 55 นาทีนั่งนอนบนเครื่อง เจ้าจำปีโฉมใหม่ซึ่งสะดวกสบาย บริการที่ดีมีอาหารให้ทาน2มื้อ หลังขึ้นหนึ่งชั่วโมงและก่อนลงเครื่อง2 ชั่วโมง ทานอาหารเช้าเสร็จ ท้องฟ้าเริ่มสว่าง มองด้านล่างเห็นเทือกเขาที่ยอดเขาปกคลุุมด้วยหิมะขาวโพลนน่าดูชม สมกับที่อยากมาสัมผัสยุโรปช่วงอากาศหนาว
เจ้าจำปีสีม่วงพาเรามาถึงสนามบินMunich ราว 7.10 น. ของวันที่6 พ.ย66 ช้ากว่ากำหนดเพียง15 นาที เวลาที่นี่ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง(บ้านเราก็บ่ายโมง) นับว่าเป็นเที่ยวบินที่เวลาเหมาะสมที่สุด บินก็ไม่นานเกินไป ดีจังแป๊ปเดียว ขึ้นเครื่องตีหนึ่ง นั่งๆนอนๆ ตื่นมาเป็นเวลารุ่งเช้า ถึงมิวนิค พอดี
เครื่องจอดที่Terminal 2 ออกจากงวงเทียบเครื่องบิน เดินตามผู้โดยสารอื่นไปตามทางขึ้นบันไดเลื่อนไป3 ทอดหรือ 3 ชั้นก็ถึงห้องโถงตรวจคนเข้าเมือง ไปเข้าคิวตรงNon Europian Residence ผู้คนรอคิวเยอะพอควร แต่มีช่อง ตม.ราว6 ตู้ ทำให้รอไม่นานก็ถึงคิว คณะเรามากัน3คน ผมเลยชูภาษากาย3 นิ้วขอเข้าไปพร้อมกันเขาพยักหน้า เลยพากันเข้าหา ตม.พร้อมกันทีเดียว พอยื่นพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ ตม. ถามว่าจะไปไหนบ้าง อยู่กี่วัน พร้อมขอดูตั๋วโดยสารขากลับ ยื่นให้เขา เจ้าหน้าที่ตรวจดูสักพัก ก็ประทับตราทีละคน เป็นเสร็จพิธี
จากนั้นลงมารับกระเป๋า ซึ่งต้องรอสักพักกว่ากระเป๋าใบแรกจะออกมา นับว่าพิธีการตรวจคนเข้าเมืองใช้เวลาไม่นาน บางแห่งกระเป๋าวนอยู่บนสายพานหลายรอบกว่าผู้โดยสารจะผ่านตม.มารับกระเป๋า สรุปใช้เวลาตั้งแต่เครื่องจอดที่สายพานจนถึงรับกระเป๋า1ชั่วโมงพอดี
รับกระเป๋าเสร็จ แวะห้องน้ำ ซึ่งที่นี่กว้างใหญ่กว่าสุวรรณภูมิบ้านเรา จากนั้นออกมาที่พักรอหน้าห้องน้ำ เปิดกระเป๋าใบใหญ่เอาเครื่องกันหนาวสวมใส่เตรียมสัมผัสกับความหนาวอุณหภูมิเลขตัวเดียว พร้อมแล้วลากกระเป๋าเดินผ่านพิธีการศุลกากรตรงช่องไม่มีสิ่งของที่สำแดง เจ้าหน้าที่มองผ่านๆแล้วให้เราออกประตูผ่านไปโดยไม่ตรวจอะไรเลย รู้งี้เอาหมูแดดเดียวมาสักกิโล(ยุโรปเขาห้ามนำเนื้อสัตว์เข้าประเทศ) แต่ถ้าเขาตรวจก็คงอ่วมเป็นแน่
![]() |
ห้องโถงสนามบินมิวนิค หลังจากผ่านศุลกากร |
![]() |
เส้นทางรถไฟสายS1และS8 จากสนามบินสู่ สถานีรถไฟกลางมิวนิค |
เลยขอซื้อตั๋ว Munich card day Ticket(Group Ticket) กับเจ้าหน้าที่ ราคา 27.80 ยูโร เขาบอกใช้ได้ถึง5 คน แต่เรามีแค่ 3 คน คุ้มค่าครับและสามารถใช้นั่งรถไฟเข้าเมืองได้ และใช้นั่งรถสาธารณะทั้งรถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัสและรถราง ในMunich ได้ตลอดวัน24 ชั่วโมง ในzone M- 5 นับว่าคุ้มค่ามาก หากเป็นตั๋วคนเดียวหรือMunich Card Single Ticket ราคา 19.6 ยูโร หรือถ้าซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวจากสนามบินไปสถานีรถไฟ Munich HBF ราคา1 คน 11.5 ยูโร ดังนั้นการซื้อตั๋วMunich Card แบบกลุ่มถือว่าถูกและคุ้มค่ามากๆ
เมื่อได้ตั๋วแล้วเขียนชื่อผู้โดยสารลงไปในตั๋วให้ครบทุกคน หากไม่เขียนหากเจอนายตรวจจะถูกปรับครับ
![]() |
Munich Day Ticket |
![]() |
ด้านหลังMunich Day Ticket |
จากนั้นจึงลากกระเป๋าขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนเพื่อขึ้นรถบัสที่เขาจัดให้ทดแทนรถไฟ รถบัสพาไปส่งที่สถานีรถไฟกลางทางห่างไป2 สถานี เพื่อให้ขึ้นรถไฟที่จะมารับผู้โดยสารที่สถานีนี้ไปยังเส้นทางประจำมุ่งสู่ Munich hbfต่อไป ลากกระเป๋าขึ้นลิฟท์เพื่อขึ้นสะพานลอยข้ามถนนที่สูงกว่าตึก2 ชั้น ไปลงที่สถานีรถไฟอีกฝั่งหนึ่ง ทุลักทุเลพอสมควร จากนั้นรอขึ้นรถไฟสาย S 8 ผู้โดยสารรอรถไฟที่สถานีราว 150 คน รอสักพักรถไฟมาเทียบชานชาลาผู้โดยสารต่างก็รีบลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ รถไฟนี้ถ้ามีตั๋วแล้วขึ้นได้เลยเลือกที่นั่งตามชอบใจ เจ้าหน้าที่ค่อยมาตรวจตั๋วที่หลัง หากไม่มีจะถูกปรับหลายเท่าของราคาตั๋ว แต่วันนี้ไม่เจอเจ้าหน้าที่หรือนายตรวจเลย
รถไฟวิ่งเร็วราว100 กม/ชม ผ่านทุ่งหญ้า พื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ที่ต้นไม้เปลี่ยนสี มีบ้านเรือนอยู่ประปราย รถไฟวิ่งใช้เวลาราว30นาทีก็มาถึงสถานี Munich HBF Central Station ซึ่งทั้งรถไฟสาย S8 และ S 1 ชานชาลาจะอยู่ใต้ดิน ต้องลากกระเป๋าขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมายังสถานีกลางมิวนิค (Munich HBF) ซึ่งเป็นสถานีเก่าแก่ ห้องโถงก็ไม่ใหญ่โตมากนัก มีร้านขายของ ร้านอาหาร ไม่มีSuper Market แต่มีชานชาลาราวๆ30 ชานชาลาในระดับบนดิน สถานีนี้สามารถนั่งรถไฟต่อไปเมืองอื่นๆได้เลย หรือจะออกไปนอกสถานีต่อรถBus รถราง(Tram )ได้เลย
เป็นอันว่าการเดินทางเข้าเมืองMunich วันนี้ถึงแม้ว่าเครื่องบินจะมาค่อนข้างตรงเวลา แต่เสียเวลาเดินทางเข้าเมืองนานพอสมควร เดิมคาดว่าจะถึงMunich hbfราว9 โมงก็กลายเป็น10โมง
เราจองที่พักใกล้ๆสถานีMunich HBF และศึกษาเส้นทางมาอย่างดี พอมาเจอของจริง กลับหลงทิศ หวังพึ่งInternet จากsim cardที่ซื้อมาจากเมืองไทยก็สัญญาณอ่อน จึงลากกระเป๋าออกจากสถานีรถไฟทางประตูด้านขวามือ กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ใช่ก็เดินไปได้กว่า500 เมตรแล้ว จึงย้อนกลับมาตั้งต้นที่สถานี หาพิกัดใหม่ จนพบพิกัดที่ถูกต้องว่าต้องออกประตูทางด้านซ้ายมือ จึงลากกระเป๋าข้ามถนนเดินไปตามทางเท้าไปโรงแรม ถนนที่มิวนิคข้ามง่ายตามสัญญานไฟ รถหยุดทุกคัน ไม่ต้องห่วงว่าจะมีมอเตอร์ไซด์ซิ่งฝ่าไฟแดงหรือบนฟุตปาท
![]() |
Tram ผ่านด้านข้างโรงแรมที่พัก |
โรงแรมที่เราพักอยู่ห่างจากสถานีราวๆ600 เมตรใช้เวลาเดิน8 นาทีก็ถึง แต่ยังไม่ถึงเวลาเช๊คอิน จึงได้ฝากกระเป๋าไว้ แล้วออกไปเที่ยวเมืองMunich